-

***

28 พ.ค. 2554

ชีวิตลิขิตเอง และ ถนนแห่งแสงตะวัน



ถนนทอดยาวมีผู้คนมากมายเดินไปปะปนกัน บางคนก็เร่งรีบเหมือนเข็มวินาทีของนาฬิกา บางคนก็เดินก้าวช้าๆ ไม่เร่งรีบ..... บางคนมีมิตรสหายเดินเคียงข้างหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน. บางคนจูงมือเดินคู่กับคนรักอย่างมีความสุข. บางคนเดินคนเดียว...เพียงลำพัง บางก็ยิ้ม บางก็หัวเราะ บางก็เหงา ๆ....ภาพสะท้อนว่า...ยังคงมีบางคนที่เดินตัวคนเดียวเช่นกับตัวฉัน) ฉั น ห ยุ ด พั ก นั่ ง . . . และมองดูท้องฟ้า แสงแดดส่องดวงตาจนทำให้ฉันต้องก้มมองลงพื้น. ฉันก็ค้นพบว่า.........


ก่อนเคยเชื่อในลิขิตฟ้าดิน
ปล่อยชีวิตไปตามโชคชะตา
แต่ฝันไม่เคยถึงฝั่ง

ผิดหวังในใจเรื่อยมา เพราะฟ้าไม่มีหัวใจ
จะเลวหรือดี มันอยู่ที่คน จะมีหรือจน มันอยู่ที่ใจ

ดินฟ้าไม่เคยลิขิต
ชีวิตจะเป็นเช่นไร
อย่าเลยอย่าถามฟ้า

ปีนไปให้สูงที่สุด อย่างที่คิดฝันไว้กับใจ
จะยากเย็นเท่าไร บอกใจว่าจะไม่กลัว

ไม่รอให้ฟ้าดินลิขิต ไม่ปล่อยให้ชีวิตผ่านไป
ไม่ว่าจะสูงจะไกลเท่าไหร่ บอกใจว่าจะไม่กลัว

ไม่ยอมให้ฟ้าหรือใครลิขิต อยากมีชีวิตที่ใฝ่ฝัน (ที่ใฝ่ฝัน)
ตั้งแต่วันนี้ นี่คือชีวิต ลิขิตของเราเปรียบชีวิตเป็นดังบทละคร
จะยอมให้ใครเขียนบทของเรา

ชีวิตจะเป็นเช่นไร ก็ขอให้เป็นเพราะเรา
เรื่องราวที่เราต้องเขียน







บ่อยครั้งที่ฉันเคว้งคว้างเดินไปท่ามกลางผู้คน
สั่งให้เท้าสองเท้านั้นก้าวไปอย่างเหนื่อยล้า
มีแต่ความคิดท้อแท้ในใจ กับเกมชีวิตและโชคชะตา
กับปัญหาที่ฉันไม่คิดจะสู้ต่อไป
แต่ฉันบังเอิญมองไปไปเจอภาพชายผู้หนึ่ง
ที่วันนี้สองขาของเขาโดนตัดขาดหาย
ชายหนุ่มคนนั้นเขาใช้ขาเทียม
ผลักดันชีวิตของเขาให้ก้าวไป

กลับทำให้ฉันค้นพบว่าฉันไม่ได้อ้างว้างเดียวดายต่อไป
ยังมีผู้คนมากมายที่เขาต้องดิ้นรนยิ่งกว่าฉัน
และความหวังที่พวกเขามี มันเหมือนแสงของตะวัน
ที่จะเป็นแรงใจ ให้ฉันยังคงก้าวไป
ชายชราคนหนึ่งนั่งลงที่ตรงข้างทาง
หยิบเอาของไร้ค่า เสื้อผ้าเก่าๆ มาขาย
ภาพเด็กผู้หญิงน้อยๆ คนหนึ่ง หยุดยืนข้างรถร้องขายมาลัย
ซ่อนความหวังน้อยๆ นั้นไว้ใต้เงาหมอกควัน

กลับทำให้ฉันค้นพบว่าฉันไม่ได้อ้างว้างเดียวดายต่อไป
ยังมีผู้คนมากมายที่เขาต้องดิ้นรนยิ่งกว่าฉัน
และความหวังที่พวกเขามี มันเหมือนแสงของตะวัน
ที่จะเป็นแรงใจ ให้ฉันยังคงก้าวไป
ชายชราคนหนึ่งนั่งลงที่ตรงข้างทาง
หยิบเอาของไร้ค่า เสื้อผ้าเก่าๆ มาขาย
ภาพเด็กผู้หญิงน้อยๆ คนหนึ่ง หยุดยืนข้างรถร้องขายมาลัย
ซ่อนความหวังน้อยๆ นั้นไว้ใต้เงาหมอกควัน

ทุกๆครั้งที่เสียงหัวใจอ่อนลงทุกที
ที่ถนนสายนี้นัดฉันมาบอกความหมาย
ภาพจากถนนสายแสงตะวัน บอกเล่าให้ฉันเห็นโลกที่เป็นไป
ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตฉันไว้ ไม่ให้หมดหวัง
บอกให้ฉันได้รู้ว่าฉันยังคงมีหวัง และวันนี้ฉันพร้อมจะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง


มหาวิทยาลัยชีวิต เรายังต้องเรียนทุกวินาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน ทุกเดือน และทุกปี ความยากง่ายของบทเรียน รวมถึงโจทย์ปัญหาต่าง ๆ เราต้องศึกษาและแก้ไขปัญหากันต่อไป.......ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ทุกท่านนะคะ.....ขอบคุณเนื้อเพลงดี ๆ ของคุณเบิร์ด ธงไชยคะ............

ไม่มีความคิดเห็น:

.